ข้อดีของโยคะที่จะทำให้คุณอยากลุกขึ้นมาฝึกทุกวัน 🔥

ถ้านึกถึงว่าอะไรที่เป็นแรงผลักดันให้กวางยังคงเลือกฝึกโยคะอย่างต่อเนื่องมาเกือบสิบปี หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นการที่เราได้เรียนรู้เรื่องประโยชน์ของโยคะที่มีผลต่อร่างกายแล้วก็จิตใจ ยิ่งศึกษาหาความรู้มากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เราเชื่อว่านี่คือหนึ่งในของดีที่อยู่มาข้ามศตวรรษ และถ้าไม่ดีจริงมันคงไม่อยู่มานานขนาดนี้ (ราวๆ 5000 ปีเอง 😆)

ถ้าไม่ได้นึกถึงในมุมวิทยาศาสตร์ เอาแค่ตัวกวางเองก่อนว่าที่ผ่านมาโยคะเปลี่ยนแปลงอะไรในตัวกวางบ้าง ก็ต้องเริ่มจาก… ทั้งตัวละค่ะ

คือเมื่อก่อนเนี่ยกวางเป็นคนหนึ่งที่มีอาการออฟฟิศซินโดรม ที่ปวดคอบ่าไหล่มากๆ ตลอดเวลา ใช้ชีวิตอยู่กับความไม่สบายตัวเป็นปกติ จะมีแค่ตอนไปนวดกับตอนไม่ต้องทำงานเท่านั้นที่รู้สึกสบายตัวขึ้นมาหน่อย แต่พอต้องกลับไปนั่งทำงานเมื่อไหร่จะปวดคอบ่าไหล่ทุกทีเลย (เค้าถึงเรียกออฟฟิศซินโดรมเพราะเป็นโรคที่ทำให้คนกลัวออฟฟิศนี่ละเนอะ)

พอมาฝึกแล้วอาการปวดคอบ่าไหล่ก็หายหมด มันไม่ได้หายในทันทีแต่เหมือนร่างกายเราค่อยๆ สะสมความแข็งแรง พอถึงจุดนึงที่มันอยู่ตัวอาการปวดก็หายไปและไม่กลับมาเป็นเยอะๆ อีกเลย ยังเคยคุยกับแฟนที่เริ่มโยคะมาพร้อมๆ กันว่า “คนอื่นจะรู้มั้ยนะว่าความสบายตัวขนาดนี้มันมีอยู่จริง”

นอกจากเรื่องปวดคอบ่าไหล่ อีกอย่างหนึ่งที่ชัดเจนของกวางคือเรื่องภูมิแพ้ เพราะเป็นคนติดนอนห้องแอร์แล้วพอตอนเช้าก็จะคัดจมูกมีน้ำมูกอยู่เสมอ แต่หลังฝึกโยคะได้สักระยะหนึ่งอาการภูมิแพ้ก็ดีขึ้นจนหายไปในที่สุด บุคลิกภาพในการยืนเดินนั่งก็หลังตรงดูดีมากขึ้น จากเมื่อก่อนที่หลังค่อมไหล่ห่อ และคอยื่นไปข้างหน้าเหมือนเต่า

อีกอย่างหนึ่งที่ชัดคือเรื่องน้ำหนักตัว เมื่อก่อนกวางเป็นคนที่จัดว่าอ้วนไวผอมไว แต่ช่องว่างระหว่างอ้วนกับผอมมันห่างกันเป็นหลักสิบกิโล คือน้ำหนักเหวี่ยงค่อนข้างมาก แต่พอมาเริ่มฝึกโยคะน้ำหนักตัวก็ค่อนข้างคงที่ ขึ้นลงห่างกันไม่เกิน 3–4 กิโล ซึ่งถือว่าได้ผลดีมากในการคุมน้ำหนักตัวเอง

ผลทางด้านจิตใจยิ่งสำคัญ ส่วนตัวกวางใช้โยคะเป็นรูปแบบหนึ่งของการฝึกสมาธิ ดังนั้นการได้ฝึกโยคะนอกจากจะช่วยเพิ่มพูนพลังสติ และความสามารถในการจดจ่อทำงานให้กวางได้เยอะมาก มันยังฝึกให้กวางมีความอดทน รู้จักรอคอยสิ่งที่ยังไม่ถึงเวลา มีเมตตากับตัวเอง และเป็นเหมือนหนึ่งกิจวัตรที่คอยกระตุ้นและผลักดันเราให้ก้าวไปข้างหน้าแม้ในยามที่ชีวิตมีความท้าทายหลายอย่าง

การต่อสู้กับใจตัวเองบนเสื่อในทุกๆ วัน สร้างพลังใจให้กวางในการใช้ชีวิตอย่างเข้มแข็งและเบิกบานค่ะ
ฟังเรื่องราวประโยชน์ของโยคะที่กวางได้รับแล้วทีนี้มาฟังดีกว่าว่าในทางวิทยาศาสตร์แล้วโยคะให้อะไรกับคุณบ้าง ซึ่งวันนี้กวางจ

ขอพูดถึงเรื่องแรกก่อนคือ

โยคะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย

หลายๆ คนอาจจะยังไม่เข้าใจว่าทำไมร่างกายถึงต้องยืดหยุ่นด้วยล่ะ ความยืดหยุ่นสำคัญยังไง แต่ถ้าอธิบายว่า “การสร้างความยืดหยุ่นให้กับร่างกายช่วยลดอาการปวดตึงกล้ามเนื้อได้” บางคนก็จะร้องอ๋อขึ้นมา

ถ้าเปรียบเทียบโยคะกับการนวดคลายกล้ามเนื้อเราจะเห็นความแตกต่างชัดเจนขึ้น

การนวดช่วยคลายความเกร็งตึงให้กับกล้ามเนื้อ เมื่อนวดเสร็จกล้ามเนื้อมีความผ่อนคลายอาการปวดก็จะหายไป แต่พอเรากลับไปใช้งานกล้ามเนื้อแบบเดิม อาการปวดก็กลับมาอีก แล้วก็วนอยู่แบบนี้เรื่อยไป นั่นเพราะการนวดแค่ช่วยคลายความตึงแต่ไม่ได้ทำให้ลักษณะของกล้ามเนื้อเปลี่ยนไป ทำให้คนที่นวดเป็นประจำไม่สามารถหยุดนวดได้เลย

แต่การฝึกโยคะไม่เหมือนกัน โยคะนอกจากจะช่วยผ่อนคลายความเกร็งตึงของกล้ามเนื้อแล้ว โยคะยังช่วยเปลี่ยนคุณภาพของกล้ามเนื้อเราให้มีความยืดหยุ่นและแข็งแรงมากขึ้น พอกล้ามเนื้อโดยรวมมีคุณภาพที่ดีขึ้น อาการปวดตึงของกล้ามเนื้อก็เกิดได้ยากขึ้นและไม่เกิดการสะสมเป็นระยะเวลานานๆ ทำให้คนที่ฝึกโยคะอย่างสม่ำเสมอแทบจะลาขาดร้านนวดกันเลยทีเดียวค่ะ

อย่างกวางเองตั้งแต่มาฝึกโยคะ กวางก็แทบไม่ได้ไปนวดตัวเพราะปวดอีกเลย (แต่บางทีก็ไปให้เค้าบีบนวดตัวเล่นๆ นะคะ สบายดี)ร่างกายที่ยืดหยุ่นเคลื่อนไหวได้ในองศาที่มากกว่า

การนั่งยองๆ บนพื้นที่สกปรก การก้าวขาคร่อมมอเตอร์ไซค์ การนั่งพับเพียบ/ นั่งขัดสมาธินานๆ เวลาไปงานบุญที่วัด การเอื้อมมือปลดตะขอชุดชั้นใน เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่ต้องอาศัยความยืดหยุ่นของร่างกาย ลองนึกถึงคนที่กล้ามเนื้อตึงมากๆ กิจกรรมที่ดูแสนธรรมดาเหล่านี้ อาจทำให้เค้าร้องยี้ได้เลยทีเดียว

แต่เมื่อเราได้ฝึกโยคะที่เน้นสร้างความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อ ร่างกายก็จะเคลื่อนไหวได้เป็นอิสระมากขึ้น

ยิ่งถ้าฝึกโยคะจนเกิดความเคยชินเราจะบ่มเพาะคุณสมบัติในการสังเกตและรู้จักจัดปรับร่างกายตนเองให้กลับมาอยู่ในจุดสมดุลได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นในอิริยาบทนั่ง ยืน เดิน นอน เราจะเรียนรู้ที่จะจัดท่าทางให้สบายได้เอง
หรือถ้าแม้นั่งยังไงก็ไม่สบายเราก็จะรู้วิธีที่จะคลายกล้ามเนื้อตัวเองได้ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เกิดขึ้นกับนักเรียนของกวางทุกคน เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการเรียนรู้ตามสัญชาติญาณที่เกิดขึ้นเองจากการฝึกโยคะค่ะ

ร่างกายที่ยืดหยุ่นมีโอกาสบาดเจ็บน้อยกว่า

การได้รู้จักใกล้ชิดกับคลินิคกายภาพฯ ทำให้กวางได้มีโอกาสเจอเคสคนไข้ที่หลากหลาย และกลุ่มคนที่ออกกำลังกายก็นับเป็นกลุ่มที่ใหญ่มากที่มารักษาที่คลินิค และกวางพบว่าหนึ่งในสาเหตุยอดฮิตของอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายคือกล้ามเนื้อที่ตึงเกินไป

มีบางคนเตะบอลแล้วเอี้ยวผิดจนต้องหามส่งโรงพยาบาล มีหลายคนกล้ามเนื้อตึงแต่ยังฝืนวิ่งจนบาดเจ็บ มีบางคนกล้ามเนื้อตึงมากแต่ยังฝืนปั่นจักรยานเสือหมอบแบบก้มสุดตัว

กวางไม่ได้มองว่าการบาดเจ็บเป็นเรื่องไม่ดีเสมอไป บางคนก็อาจจะต้องเจ็บก่อนถึงจะรู้ซึ้งว่าอะไรควรหรือไม่ควรทำ ถ้าการบาดเจ็บนั้นมันทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับร่างกายของเรามากขึ้น รู้จักที่จะถอยและมีความรู้ในการดูแลร่างกายตัวเองที่ดีกว่าเดิม ก็ถือว่าการเจ็บนั้นไม่เสียเปล่า

โยคะนั้นให้ประโยชน์เหมือนการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ (ซึ่งทุกกีฬาจำเป็นต้องทำ) ถ้ากล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นแล้วหลายคนคงเอี้ยวตัวได้สุดมากขึ้น การวิ่งออกกำลังกายก็จะทรมานน้อยลง การปั่นจักรยานเสือหมอบก็จะก้มได้มากขึ้นและปั่นได้สนุกขึ้น แน่นอนว่าหลายๆ ครั้งกีฬานั้นมาคู่กับอาการบาดเจ็บ แต่ถ้าเราได้ฝึกโยคะโอกาสบาดเจ็บจะลดลงมาก และเราจะสามารถสนุกกับกีฬาของเราได้มากขึ้นด้วยค่ะ

นอกจากนี้สำหรับกวาง โยคะนั้นสนุกกว่าการยืดเหยียดกล้ามเนื้อธรรมดา เพราะโยคะมีความหลากหลายของท่า และมีระดับความยากง่ายให้พัฒนาไปต่อได้ด้วย

เมื่อเราเคยชินกับความสบายตัว เราจะรู้สึกทันทีเมื่อเราไม่สบายตัว

กวางคิดว่าคุณสมบัติข้อนี้สำคัญมากในยุคปัจจุบัน เพราะในสมัยนี้ที่เรานั่งนานๆ กันจนเคยชิน คนจำนวนเยอะมากที่ไม่รู้สึกตัวว่าร่างกายได้ส่งสัญญานเตือนมาหลายครั้งแล้ว แต่ได้ข่าวอีกทีก็คือนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล (คนรู้จักกวางอย่างน้อยสองคนเป็นแบบนั้น)

อาการที่เราเคยได้ยินกันบ่อยๆ อย่างหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท ออฟฟิศซินโดรม Myofacial pain syndrome (MPS หรืออาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง) Fibromyalgia (โรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ไฟโบรมัยอัลเจีย) อาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่ส่วนใหญ่เกิดจากการสะสมเรื้อรังของพฤติกรรมผิดๆ ในการใช้ชีวิต

จากตอนแรกมันอาจจะเป็นเพียงอาการปวดตึงธรรมดา แต่เมื่อเราละเลยไม่ฟังเสียงเตือนจากร่างกาย ปล่อยทิ้งไว้เรื่อยๆ ก็จะทำให้อาการหนักขึ้นในที่สุด
แต่ผู้ฝึกโยคะโดยส่วนใหญ่จะไวกับสัญญานเตือนเหล่านี้

ถ้าเปรียบเทียบกับก่อนที่จะมาฝึกโยคะ หลายคนอาจจะอยู่กับความไม่สบายตัวจนเคยชิน ทำให้ไม่ได้รับรู้ถึงสัญญานเตือนอันนี้เท่าไหร่ แต่เมื่อเราได้เริ่มมาฝึกโยคะ ได้มารู้จักกับความสบายตัว ความเบา ไม่เมื่อย ไม่ตึง ไม่ปวด เราก็จะเริ่มมีตัวเปรียบเทียบระหว่าง “ความสบายกับความไม่สบาย” ทำให้เรารู้สึกตัวได้ไวขึ้น ชัดเจนมากขึ้น

ซึ่งคุณสมบัตินี้ถือเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ช่วยดูแลและป้องกันร่างกายของเราจากการบาดเจ็บจากพฤติกรรมการใช้งานที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตค่ะ

ร่างกายของคนเรานั้นเชื่อมโยงถึงกันหมด

เมื่อก่อนกวางมักจะมองอาการปวดแบบแยกส่วนกัน คือปวดหลังก็ไปนวดหลัง ปวดขาก็ไปนวดขา แต่หลังจากมาฝึกโยคะเราได้เริ่มเข้าใจว่าร่างกายไม่ได้ทำงานอย่างแยกส่วนแบบนั้น และร่างกายนั้นเชื่อมโยงถึงกันมากกว่าที่เราคิด

อย่างเวลาเรารู้สึกปวดเมื่อยบริเวณหลังส่วนล่าง ความเข้าใจเมื่อก่อนคือเกิดจากกล้ามเนื้อหลังตึง แต่หลังจากฝึกโยคะเราได้เข้าใจว่าหลายๆ ครั้งมันไม่ใช่เพราะกล้ามเนื้อหลังตึงอย่างเดียว แต่มันอาจจะเกิดจากกล้ามเนื้อสะโพกและต้นขาด้านหลังที่ตึงมากจนไปดึงรั้งกล้ามเนื้อหลังล่าง ทำให้เรารู้สึกปวดเมื่อยขึ้นได้

หรือในคนที่มีอาการหลังค่อม ไหล่ห่อ ก็ไม่ใช่เกิดจากแค่กล้ามเนื้อบ่าไหล่ที่ตึง แต่เกิดจากหลายส่วนรวมกัน เช่น กล้ามเนื้อบ่าไหล่ตึงร่วมกับกล้ามเนื้อหลังไม่แข็งแรง ซึ่งนอกจากจะทำให้บุคลิกภาพดูไม่สง่างามแล้ว อาการหลังค่อม ไหล่ห่อยังส่งผลให้กล้ามเนื้อช่วงหน้าอกเกิดการเกร็งตัวและหดสั้น ส่งผลให้เราหายใจได้ไม่เต็มอิ่มเพราะกล้ามเนื้อหน้าอกนั้นเกี่ยวข้องกับระบบหายใจ

พอพูดแบบนี้เราก็จะเริ่มเห็นว่าอาการปวดตึงที่เราเคยรู้จักนั้นไม่ได้อยู่แยกกันเป็นส่วนๆ แต่มันเชื่อมโยงถึงกล้ามเนื้อมัดอื่น อาการอื่น รวมถึงคุณภาพชีวิตด้านอื่นๆ ของเราด้วย

เมื่อเราเข้าใจว่าร่างกายทุกส่วนเชื่อมโยงถึงกันเราถึงเข้าใจว่าทำไมการฝึกโยคะจึงให้ประโยชน์มาก เพราะโยคะไม่ได้เน้นแก้ร่างกายเพียงจุดใดจุดหนึ่ง แต่โยคะช่วยปรับแก้ร่างกายทุกส่วนพร้อมๆ กัน

ดังนั้นเป็นเรื่องปกติมากที่ในหนึ่งท่าโยคะเราจะได้ฝึกกล้ามเนื้อพร้อมกันทีเดียวหลายๆ มัด เช่น ท่าที่ช่วยแก้อาการหลังค่อม ไหล่ห่อ นอกจากจะช่วยคลายกล้ามเนื้อช่วงบ่าไหล่สะบัก ยังช่วยเปิดยืดกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกซึ่งส่งผลดีกับระบบหายใจ ปรับแก้บุคลิกภาพให้กลับมาอยู่ในจุดสมดุลเพื่อแก้อาการหลังค่อม ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงศีรษะและใบหน้ามากขึ้น ลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า เพิ่มพูนความทรงจำ ทำให้จิตใจเกิดความสงบผ่อนคลาย เรียกว่าทำท่าเดียวแต่ได้ประโยชน์หลายอย่าง

เมื่อเรามองเห็นภาพรวมของร่างกาย ไม่ได้มองมันแบบแยกส่วนกัน เราก็จะสามารถดูแลร่างกายของเราได้อย่างเข้าใจมากขึ้น

เราจะเริ่มใส่ใจพฤติกรรมเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน ไม่ก้มกดคอมากๆ ไม่นั่งต่อเนื่องนานเกินไป รู้จักบิดขยับตัวเป็นระยะๆ รู้จักแบ่งเวลามาฝึกโยคะเพราะเรารู้ดีว่าโยคะช่วยให้เราสบายตัวมากขึ้น ปวดเมื่อยน้อยลง เมื่อเราสบายตัวมากขึ้นเราก็นั่งทำงานหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ได้มีความสุขมากขึ้นด้วย
รู้อย่างนี้แล้ว แบ่งเวลามาฝึกโยคะเพื่อสุขภาพที่ดีของเรากันนะคะ 💪🏻


ขอตัดเข้าสู่ช่วงโฆษณา ฟิ้วววววว

คอร์สโยคะออนไลน์ก้าวแรกสู่โยคะ คอร์สที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่สนใจอยากเริ่มต้นฝึกโยคะอย่างถูกต้องและเป็นระบบ สอนตั้งแต่วิธีการหายใจจนสามารถฝึกเองได้เป็น แม้ไม่เคยมีประสบการณ์การเรียนโยคะมาก่อนก็สามารถฝึกได้

สอนโดยกวางเอง เจ้าของสตูดิโอพอดีพอโยคะ จังหวัดสระบุรี และช่องยูทูปพอดีพอโยคะ (pordipor yoga) ที่มียอดผู้ติดตามกว่า 168,000 คน มีประสบการณ์การสอนและการฝึกโยคะ 9 ปี (อีกนิดๆ จะสิบปีละน้าา 😆)

คอร์สนี้ประกอบไปด้วย
✅วิดิโอแนะนำการเตรียมตัวก่อนการเริ่มฝึกโยคะ 6 วิดิโอ
✅วิดิโอสอนการฝึกโยคะระดับพื้นฐาน 6 วิดิโอ
✅วิดิโอคลาสโยคะรูปแบบต่างๆ อีก 4 วิดิโอ
✅ไฟล์ PDF ภาพประกอบชุดท่าโยคะพื้นฐานเพื่อเก็บไว้ฝึกเอง
✅กวางและทีมงานที่คอยตอบคำถามตลอดการใช้งาน ทั้งคำถามเรื่องโยคะ และคำถามเรื่องเทคนิคอุปกรณ์การใช้งานต่างๆ
✅คอร์สเรียนดูได้ตลอดชีพ

รวมเวลาการฝึกในคอร์สกว่า 11 ชั่วโมง เรียนจบคอร์สรับรองว่าสามารถฝึกโยคะเองได้อย่างเข้าใจและมั่นใจค่ะ นอกจากนี้ยังสามารถส่งวิดิโอมาให้ช่วยเช็ก ส่งคำถามหรือพูดคุยปรึกษาเกี่ยวกับการฝึก (หรือเรื่องอื่นๆ ก็ได้นะจ๊ะ)

🔥 ทั้งหมดนี้ในราคา 2,499- จ่ายครั้งเดียวดูได้ตลอดชีพ

ถ้าสนใจสามารถแมสเสจหรือแอดไลน์มาพูดคุยสอบถามได้ที่ @pordiporyoga (คลิ๊กลิงค์ได้เลยที่นี่ → https://lin.ee/2HxBgL2)

สนใจสั่งซื้อหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ https://www.pordiporyoga.com/

อ่านรีวิวคอร์สได้ที่นี่ https://www.pordiporyoga.com/course-review-page/
ซื้อก่อนสวยแถมสุขภาพดีก่อนใคร ฝึกเองมาแล้วเก้าปี ของดีบอกต่อเลยจ้าา 🥳

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top
Scroll to Top