ความสามารถในการรัก

มีหลายครั้งที่กวางมีปัญหาเรื่องความสามารถในการรักของตัวเอง เป็นปัญหาของความสัมพันธ์ในหลายๆ รูปแบบ ในหลายๆ สถานการณ์ มันไม่มีสูตรสำเร็จที่ตายตัวเลยกับการเผชิญเรื่องราวเหล่านี้ กวางว่ามันเป็นปัญหาที่คลาสสิกของทุกคน กวางเองก็เป็นคนหนึ่งที่อยู่กับมันมาหลายปี ผ่านมันมาหลายขั้นตอน

เคยล้มหมอนนอนเสื่อเพราะความทุกข์ในใจมันบีบคั้น เคยดิ้นรนทุรนทุราย เดินเข้าถอยออกจากความสัมพันธ์บางรูปแบบนับครั้งไม่ถ้วน ใจพร้อมก็เอาใหม่ ลองใหม่ ใจไม่ไหวก็หนี ทำแบบนี้อยู่หลายปี จนบางคนที่รู้ถึงกับถามว่าทำไมทำร้ายตัวเองแบบนั้นล่ะ

กวางเองก็ใช้เวลานานในการพยายามเข้าใจคนอื่น และพยายามเข้าใจตัวเอง ที่สุดแล้วเราตอบตัวเองได้ว่าทุกความพยายามที่เราทำลงไปคืออะไร คือเพราะเรารักเค้า มันง่ายๆ แต่มันซับซ้อนมาก เพราะมันซ่อนอยู่ภายใต้ความโกรธ ความไม่เข้าใจ ความรู้สึกอยากกล่าวโทษ ความรังเกียจ หลายๆ ความรู้สึกที่มันซ้อนทับกันอยู่ข้างบน ถมซะมันเกือบจะมิด จนเราเกือบจะหามันไม่เจอ

อีกอย่างนึงที่ผลักดันให้เราพยายามก้าวไปข้างหน้า คือเราไม่ชอบมันเลย เราไม่ชอบที่จะอยู่กับความไม่สบายใจ อยู่กับความทุกข์ทางใจบางอย่าง ที่จะทนเห็นหน้ากันไม่ได้ มันทุกข์ทั้งเราและเค้า กวางอยู่ไม่ได้กับความรู้สึกแบบนั้น เราถึงได้ดิ้นรน อยากจะหาหนทางว่าเราจะมองมันยังไง เราจะอยู่กับมันยังไง ด้วยความรู้สึกแบบไหน

ในเมื่อในเรื่องเดียวกันมันมีบางคนที่เค้าอยู่กับมันได้ ดังนั้นแน่นอนว่าความคิดของเรามันไม่ถูกต้อง และความคิดหรือมุมมองมันเปลี่ยนกันได้ มันขยายให้กว้างขึ้นได้ มันทำความเข้าใจให้มากขึ้นได้ ถ้าเราทุกข์แสดงว่าเราคิดผิด ถ้าเราคิดผิดเราก็ต้องหาวิธีคิดที่มันถูกมากขึ้น ถ้าทำเองไม่ได้เราก็ต้องไปหาผู้เชี่ยวชาญ หรือคนที่เรามั่นใจว่าเค้ารู้มากกว่าเรา

ช่วงที่กวางทุกข์มากๆ และพยายามจะผ่านโจทย์ๆ นึงอยู่เป็นปี จนสุดท้ายคิดว่าเออ ไม่ไหวแฮะ ช่วยตัวเองแล้วมันไม่ได้จริงๆ ไม่ผ่านจริงๆ ยังทุกข์อยู่ ยังไม่รู้จะมองเรื่องนี้ยังไงให้ใจมันเบา หรืออยู่กับมันได้ดีขึ้น บางครั้งเราก็แค่ต้องพยายามจนสุดทางเพื่อจะรู้ว่าตัวเองไม่มีความสามารถในบางเรื่อง แล้วเราก็จะเริ่มมองหาตัวช่วย

ตอนนั้นก็ได้ลองปรึกษาพี่ที่รู้จักคนนึง สุดท้ายเลยได้ลองไปหานักจิตบำบัดที่พี่เค้าแนะนำ

กวางไม่รู้ว่าสังคมทั่วไปมองเรื่องการหาจิตแพทย์หรือนักจิตบำบัดยังไง แต่สำหรับกวางหมอเป็นเพื่อนคุยที่พยายามช่วยขุดและคุ้ยใจกวาง และด้วยแต่เดิมเรามีความพร้อมที่จะไปต่ออยู่แล้ว เราพร้อมที่จะต้องเจ็บปวดใจจากการพยายามเปลี่ยนที่ตัวเอง เพื่อจะได้อยู่กับใครบางคนให้ราบรื่นขึ้น เราคิดว่าความเจ็บปวดจากการพยายามเปลี่ยนแปลงที่ในใจตัวเองนี้ มันดีกว่าความเจ็บปวดที่จะเพิกเฉยและตัดคนที่เรารักบางคนออกไปจากชีวิต ดังนั้นเรายอม

เราว่าเราผ่านความเจ็บนี้มาหลายครั้งแล้ว จนเรายืนยันกับตัวเองได้ว่า เจ็บแค่ไหนก็ไม่เคยทำให้เราตาย ไม่ตายจริงๆ ไม่ว่าอย่างไรเราก็จะอยู่ได้ มันยาก แต่มันไม่ขนาดทำให้เราตาย

กวางหาหมออยู่สามครั้ง ร่วมกับการนั่งสมาธิต่อเนื่อง แล้วเราก็หลุด วันที่หลุดก็ลูปเดิมเลยคือนั่งสมาธิ แล้วพอนั่งมันก็เห็น มันชัดมากเลย

คำว่า “มอง” กับ “เห็น” เป็นคำที่ชัดมากถ้าใครเคยมีประสบการณ์ในเรื่องทำนองนี้มาก่อน บางอย่างมองตั้งนาน คิดใคร่ครวญเท่าไหร่ก็ไม่ได้ ไม่เข้าใจ ไม่ลงในใจสักที จนวันนึงบทมันจะเห็นมันก็เกิดขึ้นของมันเอง แล้วมันก็หลุด ถึงจะหลุดไม่หมดแต่ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับใจครั้งใหญ่ เพราะพอมันเห็น มันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เหมือนเราก้าวขึ้นบันไดไปแล้ว มันจะไม่ลงไปอีกแล้ว

แต่ เราแค่จะเจอโจทย์ใหม่ที่ยากขึ้นไปเรื่อยๆ ร้องไห้

และกวางก็เจอจริงๆ โจทย์ใหม่สดๆ ร้อนๆ โอย ถามว่าทุกข์มั้ย ทุกข์ทุกทีเลยเวลาเจอโจทย์ยากๆ แบบนี้ แต่เพราะเราผ่านขั้นตอนแบบนี้มาหลายครั้ง คำว่ายอมรับและเข้าใจมันไม่ใช่สิ่งที่พูดแล้วจะทำได้ หรือแม้แต่คิดหนักๆ แล้วจะทำได้ กวางไม่เคยเห็นว่าวิธีนั้นจะใช้ได้ อย่างน้อยก็กับกวางคนนึงละที่มันไม่เคยได้ผล

กวางเห็นแต่วิธีที่จะยกระดับจิตใจตัวเองขึ้นเท่านั้นที่ช่วยเราได้

และส่วนหนึ่งของการยกระดับจิตใจของกวางก็คือการฝึกโยคะ และการนั่งสมาธิ (และการหานักจิตบำบัดบ้างถ้าเจอโจทย์ที่ยากต่อใจจริงๆ ) แล้วกวางก็ทำแบบนี้เรื่อยมา

บางทีก็คิดนะว่าไม่รู้ว่าเราโชคดีหรือโชคร้ายที่เจอโจทย์ยากเยอะๆ และเจอตั้งแต่อายุขนาดนี้ แล้วส่วนนึงคงเพราะนิสัยของเราเองด้วยที่ไม่คิดจะปล่อยผ่านความรู้สึกพวกนี้ ต้องจัดการกับมัน มันทำได้สิ เราทำได้แหละ คิดแบบนี้ตลอดเลย

อาจารย์ของกวางท่านเคยบอกว่า “ปัญหาเป็นเรื่องดี ปัญหาทำให้เราเก่ง ทำให้เราข้ามจากสภาวะนึงไปสู่อีกสภาวะนึงได้ ถ้าไม่มีปัญหาเราก็จะไม่พัฒนา แล้วพอเราผ่านเรื่องนี้ไปได้มันก็จะมีปัญหาใหม่ที่ยากขึ้น ที่ละเอียดขึ้นมาให้เราอีก”

ฟังดูถ้าเป็นคนที่ไม่อยากพัฒนาตัวเองก็คงรู้สึกท้อใจน่าดู เพราะเป็นเรื่องจริงที่คงจะบีบคั้นหัวใจ และกดเราให้จมความทุกข์เข้าไปอีก แต่อาจารย์ของกวางท่านมักจะพูดเรื่องจริงเสมอ และตัวท่านเองก็เป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ให้กวางในการเผชิญหน้ากับความทุกข์ เพราะชีวิตท่านคือที่สุด ถ้าใครคิดจะเทียบความทุกข์กันแล้วละก็กวางไม่เคยเจอเรื่องไหนที่ใหญ่และหนักเท่าเรื่องราวชีวิตของท่านเลย

แต่ตัวท่านที่กวางได้สัมผัส คือผู้ใหญ่ที่เข้าใจโลก ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวของชีวิตมาแล้ว ที่เบิกบานแต่ก็ตั้งอยู่บนความจริง ความจริงที่โหดร้ายแต่ท่านก็ผ่านมันได้ และอยู่กับมันได้อย่างสง่างาม

เพราะความจริงที่สุดคือถ้าเราอยากจะข้ามพ้นความทุกข์เหล่านี้ไป เราไม่มีทางเลือกใดนอกจากพัฒนาใจตัวเอง พัฒนาและยกระดับใจของตัวเอง ยอมรับความเจ็บปวดของการยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองและใจของตัวเอง มันก็ไม่ได้ง่ายแต่ก็ต้องเลือกว่าเราอยากมีชีวิตอยู่แบบไหน สุดท้ายก็อยู่ที่การตัดสินใจของเรา

วันนี้ที่กวางกำลังลังเลเรื่องนี้อยู่เหมือนกันว่าจะเอายังไงดี จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ก็ได้รับหนังสือจากการร่วมกิจกรรม New Me in One Month ของนิ้วกลม x ความสุขประเทศไทย ที่มาพร้อมกับโปสการ์ดที่เขียนว่า

“There isn’t time – so brief is life – for bickering, apologies, heartburning, calling to account. There is only time for loving – & but an instant, so to speak, for that.

Mark Twain

เราไม่มีเวลา ในชีวิตที่แสนสั้น สำหรับการค่อนแคะ การขอโทษ การเจ็บปวดในใจ การกล่าวโทษกันไปมา เรามีแค่เวลาเพื่อที่จะรัก และเรามีเวลาแค่ชั่ววูบเดียวเพื่อสิ่งนั้น (เค้าคงหมายถึงว่าเราไม่ควรรีรอ) – มาร์ค ทเวน

ดูสิ คนข้างบนเค้าทั้งใจร้ายและใจดีกับกวางเสมอเลย


Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *