น้ำตาลคือตัวเร่งกระบวนการชรา

ผู้ชายคนนี้ทำการทดลองภายใน 18 วัน โดยเปลี่ยนการกินจากอาหารปกติ ไปสู่อาหารที่โฆษณาว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพไม่มีไขมัน (fat free) พวกโยเกิร์ต ซีเรียล น้ำผลไม้คั้น น้ำผลไม้ปั่น โดยกำหนดการกินวันละ 2300 แคลลอรี่ซึ่งเป็นปริมาณแคลอรี่เท่ากับอาหารแบบเดิมที่เคยกิน

ผ่านไป 18 วัน น้ำหนักเพิ่มขึ้น 8.5 กิโลกรัม ปริมาณไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้น 7% มีความเสี่ยงโรคหัวใจเพิ่มขึ้น มีภาวะดื้อต่ออินซูลินซึ่งทำให้มีความเสี่ยงโรคเบาหวานเพิ่มขึ้น และเป็นไขมันเกาะตับ (ภายใน 18 วัน!)

สิ่งที่เราเรียนรู้ได้จากการศึกษานี้คือคุณภาพของแคลอรีก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ เราอาจจะทานโวคาโดกับน้ำอัดลมที่ให้แคลอรีเท่ากัน แต่มันมีผลกับร่างกายเราไม่เหมือนกัน

แถม

น้ำตาลคือตัวเร่งกระบวนการชรา ตัวมันเองสามารถจับกับคอลลาเจนหรืออีลาสติน ซึ่งจะทำให้คอลลาเจนหรืออีลาสตินนั้นแข็งตัว ไม่ยืดหยุ่น เสื่อมสภาพ และยังสามารถไปจับกับเฮโมโกลบินในเม็ดเลือดด้วย ทำให้ประสิทธิภาพการลำเลียงออกซิเจนของเม็ดเลือดลดลง เลือดกลายเป็นสีคล้ำส่งผลให้ใบหน้าดูหม่นหมอง

น้ำตาลมีความสามารถในการจับตัวกับโปรตีนสูง อวัยวะภายในร่างกายก็ล้วนเป็นองค์ประกอบของโปรตีน ถ้าน้ำตาลไปเกาะกับโปรตีนในหลอดเลือดจะทำให้หลอดเลือดแข็งตัว ถ้าไปเกาะที่เซลล์ผิวหนังจะทำให้ผิวหนังมีริ้วรอยเป็นจุดด่างดำ ถ้าเกาะที่สมองจะทำให้เป็นอัลไซเมอร์ นอกจากนั้นน้ำตาลส่วนเกินจะถูกแปลงเป็นไขมันสะสมไว้ในร่างกาย ทำให้เกิดโรคต่างๆตามมามากมาย — ธรรมะหน้าเด้ง: ทันตแพทย์สม สุจีรา

ใครสนใจอยากศึกษาเรื่องน้ำตาลเพิ่มเติมสามารถดูได้จากลิงค์นี้ค่ะ

เครดิต: หนังเรื่อง That Sugar Film/ ช่องยูทูป What I’ve learned