ความคิด

เราว่าข้อดีอย่างนึงของเราคือ เราเป็นคนขี้เกียจ และเราเป็นคนขี้เบื่อ

พอเราเป็นคนขี้เกียจเราก็จะพอรู้และจับทางคนขี้เกียจได้ เราเลยรู้ว่าคนแบบเราชอบฝึกโยคะแบบไปเรื่อยๆ ฝึกได้ไม่เหนื่อยจนเกินไป แต่ต้องได้ประโยชน์ (ไม่งั้นจะทำทำไม นอนดีกว่า)

แล้วพอเราเป็นคนขี้เบื่อ เราก็จะพอรู้ว่าทำคลาสยังไงให้ตัวเราเองไม่เบื่อ

แต่เพราะเราเป็นคนฐานหัวด้วย ถ้าอะไรที่ลอยๆ ไม่มีหลักการเราก็อินยากเหมือนกัน คลาสเราเลยมีทั้งความเป็นศาสตร์และศิลป์ มีข้อมูลบางอย่างอยู่เบื้องหลังแต่ก็มีความสนุกเพลิดเพลินที่เราอยากถ่ายทอด เป็นโยคะแบบที่เรารัก

โยคะที่เรารักและอยากทำให้เป็นที่รู้จัก คือโยคะที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต อาจารย์เคยพูดว่าถ้าคุณฝึกโยคะอย่างถูกทางชีวิตคุณจะค่อยๆ ดีขึ้น เราไม่ได้พูดถึงสถานการณ์ชีวิตภายนอก เรื่องนั้นเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ แต่เราหมายถึงสถานการณ์ชีวิตภายใน ทั้งร่างกายและจิตใจ

ในเมื่อโรคภัยส่วนใหญ่สมัยนี้ (ที่ไม่ใช่อุบัติเหตุ) มักเกิดจากพฤติกรรม การกิน การใช้ชีวิต การดูแลจัดการอารมณ์ภายใน การกลับเข้ามาเรียนรู้ รู้จักร่างกายภายใน เป็นเพื่อนที่ดีกับตัวเองผ่านการฝึกโยคะ จะช่วยให้เรารู้จักที่จะดูแลตัวเราได้ดีมากขึ้น

เพราะสิ่งนึงที่โยคะให้กับเราคือความตื่นรู้ในเรื่องร่างกายจิตใจ พอเราเริ่มรู้สึกตัว เริ่มรู้จักร่างกายของเราจริงๆ มากขึ้น เราจะรู้เองว่าเราควรจะทำยังไงกับเค้า จะดูแลตัวเราเองยังไง เหล่านี้เป็นการเรียนรู้ด้วยสัญชาตญาณที่เราสอนกันไม่ได้ เพราะประสบการณ์ของทุกคนย่อมแตกต่าง แต่สิ่งที่เราสอนให้คือโยคะ โยคะที่จะพาคุณต่อยอดไปสู่การเรียนรู้ภายในด้วยตัวของคุณเอง

เราพูดได้เพราะเราเองก็ผ่านมาแล้ว ถึงประสบการณ์ของเราจะต่างกัน แต่ด้วยเครื่องมือเดียวกัน เมื่อใช้อย่างถูกต้อง วันนึงคุณจะเจอหนทางของตัวเอง ขอให้ทั้งวันนั้นและวันนี้คุณมีโยคะอยู่เคียงข้าง แม้เพียงเล็กน้อย คุณก็จะรู้ว่ามันดีจังเลย ที่มีโยคะอยู่เคียงข้าง