6 เรื่องที่อยากบอกคนที่กำลังจะเริ่มฝึกโยคะ

ตอนเริ่มฝึกโยคะใหม่ๆ กวางเองก็เป็นเหมือนคนอื่นๆ คือไม่รู้จะเดินไปในทิศทางไหน เหมือนโลกโยคะมันกว้างเหลือเกิน อะไรถูกอะไรผิดมันไม่มั่นใจไปหมด แต่หลังจากผ่านเวลามาเก้าปีกวางรู้สึกว่าตัวเองเข้าใจมันมากขึ้นระดับนึงแล้ว เลยอยากจะเอาข้อคิดมาแบ่งปันกัน

สิ่งที่กวางบอกไม่ใช่เข็มทิศเพราะกวางไม่ได้บังคับว่าคุณต้องเดินไปในทิศทางไหน แต่กวางอยากให้มองมันเป็นเหมือนยอดไม้ที่ปลายทาง คือไม่สำคัญว่าคุณจะเลือกเดินไปในทิศใด แต่อย่างน้อยขอให้คิดถึงสิ่งเหล่านี้ไว้เพื่อที่การฝึกของเราจะไม่หลงทางค่ะ

1. โยคะไม่ได้มีไว้สำหรับคนตัวอ่อนเท่านั้น แต่โยคะช่วยให้ทุกคนตัวอ่อนขึ้น

ตัวแข็งหรือตัวอ่อนไม่ใช่เรื่องสำคัญ ทุกคนสามารถฝึกโยคะได้ และสามารถได้รับประโยชน์จากโยคะเหมือนกันทุกคน ยิ่งถ้าเราเป็นคนตัวแข็งเรายิ่งควรต้องฝึกโยคะ เพราะโยคะเป็นการฝึกที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย คลายความเกร็งตึงของกล้ามเนื้อ ผลพลอยได้ก็คือจะรู้สึกเบาสบายปวดเมื่อยน้อยลง

คำถามว่า “เป็นคนตัวแข็ง สามารถฝึกโยคะได้มั้ย?” เป็นคำถามสุดคลาสสิคเมื่อสองสามปีก่อนตอนกวางเริ่มทำยูทูปใหม่ๆ เรียกว่าตอบคำถามนี้บ่อยมาก มาปีหลังๆ นี้โชคดีหน่อยที่คนที่ดูยูทูปหลายๆ คนนั้นน่ารัก ไปช่วยตอบให้บ้าง ไปช่วยให้กำลังใจคนอื่นบ้าง และเพราะมีคอมเมนต์ในช่องเยอะมากขึ้น คนที่มีคำถามลักษณะนี้ก็คงได้อ่านคอมเมนต์ของคนอื่นแล้วก็คงเริ่มเข้าใจมากขึ้นในเรื่องนี้

ดังนั้นไม่ต้องกังวลนะคะ ยิ่งคุณเป็นคนตัวแข็งฝึกแล้วจะดี จะยืดหยุ่นขึ้น ปวดเมื่อยน้อยลงได้ คอนเฟิร์มค่ะ

2. โยคะมีหลายสไตล์ และครูแต่ละคนก็สอนไม่เหมือนกัน ดังนั้นอย่าเพิ่งเลิก! ถ้าคุณยังไม่เจอครูที่ใช่

กวางมักจะบอกกับนักเรียนใหม่เสมอว่าให้ลองมาเรียนดูก่อน ลองดูว่าโยคะแบบนี้ตรงกับจริตของเรามั้ย แล้วถ้าไม่ใช่ก็อย่าเพิ่งรีบตัดใจ ให้ลองไปดูที่สตูดิโออื่นๆ ด้วยเผื่อเราจะเจอสไตล์ที่เราชอบ หรือจริตที่เราชอบ

ประเภทของโยคะจะว่าไปแล้วก็มีมากเท่ากับจำนวนครูโยคะทั้งหมดรวมกัน เพราะต่อให้เรียนมาเหมือนกัน จบจากที่เดียวกัน แต่วิธีการถ่ายทอดก็จะมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวขึ้นอยู่กับนิสัยของครูแต่ละคน การเรียงท่า การบอกเทคนิค เรื่องราวที่สอดแทรก แม้แต่ระยะเวลาหรือรูปแบบในการค้างท่าก็สามารถทำให้ความรู้สึกในการฝึกแตกต่างกันได้

ของแบบนี้ไม่มีอะไรถูกผิด เพราะเป็นจริตของครูแต่ละคน เราเองที่เป็นคนเลือกก็ใช้เวลาเลือกให้เต็มที่ หรือแม้จะชอบทุกแบบอยากเรียนกับทุกคนก็ไม่ผิดเหมือนกัน เอาที่เราชอบแล้วเราจะทำได้ดีค่ะ

3. สมดุลสำคัญกว่าความชอบ

เวลาที่เราเป็นนักเรียนใหม่เราอาจจะยังไม่รู้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับร่างกายเรา บางทีโยคะที่คุณชอบอาจจะไม่ใช่โยคะที่ดีสำหรับคุณเสมอไป อย่างสมมติคุณมีปัญหาร่างกายบางอย่าง ขาไม่มีแรง นั่งยองไม่ได้ ก้มไม่ไป แล้วคุณก็คิดว่าไม่ได้ก็ไม่ทำ อย่างนี้ก็ไม่ถูก ถ้าคุณไม่ได้เป็นเข่าเสื่อมหรือมีอาการบาดเจ็บบางอย่าง การเลี่ยงท่าแล้วเลือกทำแต่ที่เราสะดวกที่เราชอบก็อาจจะไม่เป็นผลดีกับตัวเราในระยะยาว

ดังนั้นเวลาฝึกให้คิดไว้เสมอว่า “อย่าตามใจกิเลส” เพราะจิตใจคนก็เหมือนน้ำ คือมันชอบไหลลงสู่ที่ต่ำเพราะกิเลสพาไป ถ้าเชื่อฟังกิเลสวันนึงร่างกายก็จะไหลไปตามกระแสน้ำของกาลเวลาเช่นกัน ดังนั้นดึงๆ ไว้หน่อย ฝืนๆ ไว้หน่อย ฝึกให้ครบทุกด้าน “ก้มแอ่นเอียงบิด แข็งแรง ยืดหยุ่น และได้เรื่องการทรงตัวค่ะ”

ประโยคที่ว่า “ท่าที่คุณไม่ถนัดที่สุดคือท่าที่ร่างกายของคุณต้องการมากที่สุด” ยังคงใช้ได้อยู่เสมอ เน้นการฝึกที่สมดุลเพื่อประโยชน์สำหรับร่างกายของเราในระยะยาวนะคะ

4. ความสม่ำเสมอเป็นเรื่องสำคัญ

การพาตัวเองมาฝึกโยคะในแต่ละวันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะถ้ามันง่ายคนเค้าก็คงทำกันหมดแล้วสิ ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่ามันยาก การชนะใจตัวเองเป็นเรื่องยาก สังเกตว่ามันไม่ใช่ความยากที่ร่างกายนะ มันคือความยากที่จิตใจ

แต่ในความยากนั้นมันมีคุณค่าอยู่ และคนที่พร้อมจะทุ่มเทเท่านั้นถึงจะได้รับของล้ำค่านี้ ของสิ่งนี้กวางคงบอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร เพราะแต่ละคนก็คงได้รับของล้ำค่าที่แตกต่างกันออกไป แต่เชื่อเถอะว่ามันสมชื่อจริงๆ “ล้ำค่า” ไม่น้อยไปกว่าปาฏิหาริย์อื่นๆ ในชีวิตเลยค่ะ

ดังนั้นถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากจะลองดูว่ามันจะเป็นยังไง ให้บอกกับตัวเองในวันที่
ขี้เกียจ → ขอบคุณที่บอก ก็ฝึกอยู่ดี
ง่วงนอน เหนื่อย ยุ่ง → ขอบคุณที่บอก ก็ฝึกอยู่ดี
มีเรื่องแย่ๆ เกิดขึ้นในชีวิต → ขอบคุณที่บอก ก็ฝึกอยู่ดี

(เพราะถ้ามันแย่มากจริงๆ คุณจะไม่มัวมาตั้งคำถามว่าจะฝึกหรือไม่ฝึกหรอก คุณควรจะต้องรู้แล้วว่าอะไรสำคัญกว่ากัน)

ความสม่ำเสมอไม่ได้แปลว่าต้องทำได้เพอร์เฟคทุกครั้งไป แต่มันเป็นความพยายามชนิดที่กัดไม่ปล่อย

บางทีแค่คุณใส่เสื้อผ้าขึ้นไปนอนบิดตัวบนเสื่อสักหนึ่งท่า คุณก็ควรให้เครดิตตัวเองแล้วว่าอย่างน้อยวันนี้ชั้นก็ยังมานะ พยายามไปเรื่อยๆ ด้วยใจที่ยืดหยุ่น วันนี้ได้แค่ครึ่งนึงไม่เป็นไร พรุ่งนี้พยายามใหม่ โยคะก็เหมือนการวิ่งมาราธอน ดูกันไปยาวๆ ให้เวลาตัวเอง ฝึกไม่จบก็ยังดีกว่าไม่ฝึกเลย ทำไปเรื่อยๆ วันนึงเราก็จะฝึกจบเอง

และบอกได้เต็มปากเลยจากคนที่ฝึกโยคะมาแล้วเก้าปีว่า “ไม่เคยมีเลยสักครั้งเดียวที่กวางรู้สึกเสียใจที่มาฝึกโยคะ” กลับกันกวางรู้สึกดี รู้สึกว่าเราสามารถชนะใจตัวเองได้อีกวัน ซึ่งส่งผลเป็นพลังงานบวกที่ช่วยผลักดันเราไปข้างหน้าไม่ใช่แค่ในเรื่องโยคะ แต่รวมถึงเรื่องอื่นๆ ในชีวิตของเราด้วย แล้วกวางก็ใช้ประโยคนี้หลอกล่อใจตัวเองเรื่อยมาว่า เฮ้ยแก แกไม่เคยผิดหวังเลยสักครั้งนะที่มาฝึก เชื่อเราดิ ปะ ไปฝึกกัน

5. ถ้าคุณฝึกโยคะในแนวทางที่ถูกต้อง ใจของคุณจะอ่อนนุ่มลง

ไม่ได้สำคัญว่าคุณจะชอบฝึกสไตล์ไหน หรือฝึกหนักเบายังไง แต่เป็นเรื่องของทัศนคติที่มีต่อการฝึก ถ้าคุณมีทัศนติที่ดีที่ถูกต้อง การฝึกของคุณจะนำมาซึ่งประโยชน์ทั้งทางด้านร่างกายและด้านจิตใจ หมั่นตรวจสอบตัวเอง เปิดใจฟังสิ่งที่ร่างกายกำลังสอนคุณ ฟังเสียงที่พร่ำพูดกับคุณในระหว่างที่คุณฝึก (บางทีมันก็ไม่ได้มาแบบกระซิบนะ มันตะโกน)

โยคะจะสอนให้คุณรู้จักตัวเองมากขึ้น ทั้งในแง่ที่ดีและไม่ดี เมื่อคุณรู้จักและเข้าใจตัวเอง คุณก็จะเริ่มเห็นทั้งข้อดีข้อเสียของตัวเอง และนั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การยอมรับ และการเปลี่ยนแปลงภายในเพื่อพัฒนาไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่ดีขึ้น กระบวนการเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยการฝึกโยคะด้วยทัศนคติที่ถูกต้อง

ถ้าคุณฝึกโยคะแล้วรู้สึกว่าจิตใจเบาสบายขึ้น ขี้บ่นน้อยลง มองโลกแบบเบาๆ มากขึ้น เป็นมนุษย์ที่ดีขึ้นในภาพรวมแสดงว่าเรามาถูกทางแล้ว แต่ถ้าฝึกแล้วมีนิสัยไปในทางลบมากขึ้น ก็ควรจะต้องพิจารณาตัวเองว่าเราทำสิ่งใดหรือมีความคิดอะไรที่มันผิดรึเปล่า เพราะถ้าฝึกถูกต้อง ด้านจิตใจมันควรจะดีขึ้นโดยภาพรวมนะ

6. มีเวลาแค่ 10 นาทีก็ฝึกโยคะได้

ข้อนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของกวางเอง เมื่อก่อนเราเคยชินกับเวลาเฉลี่ยของคลาสโยคะว่าอยู่ที่หนึ่งชั่วโมง ทำให้เราไปกดดันตัวเองว่าฝึกทุกครั้งต้อง 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย จนตอนหลังที่ชีวิตมีภาระหน้าที่อื่นๆ เข้ามามากขึ้น เราไม่สามารถจัดเวลาได้เท่าเดิม เราก็ได้เริ่มเรียนรู้ที่จะปล่อยวางมาตรฐานด้านเวลาตรงนี้ลง

จะฝึกแค่ 10-20-30 นาทีก็ยังดีกว่าไม่ฝึกเลย ปรับไปตามสถานการณ์ของชีวิต แล้วถ้าเมื่อไหร่พอมีเวลาก็ค่อยมาฝึกเต็ม 1 ชั่วโมงบ้างเป็นระยะๆ เพราะเมื่อมีเวลามากขึ้นเราก็สามารถฝึกท่าได้ครบมากกว่า เปิดร่างกายได้ลึกกว่า และสร้างความอึดให้กับร่างกายได้ดีกว่า แต่ถ้าไม่มีเวลาถึงฝึกแค่ 2-3 ท่าก็นับเป็นการฝึกเหมือนกันค่ะ


ขอตัดเข้าสู่ช่วงโฆษณา ฟิ้วววววว

คอร์สโยคะออนไลน์ก้าวแรกสู่โยคะ คอร์สที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่สนใจอยากเริ่มต้นฝึกโยคะอย่างถูกต้องและเป็นระบบ สอนตั้งแต่วิธีการหายใจจนสามารถฝึกเองได้เป็น แม้ไม่เคยมีประสบการณ์การเรียนโยคะมาก่อนก็สามารถฝึกได้

สอนโดยกวางเอง เจ้าของสตูดิโอพอดีพอโยคะ จังหวัดสระบุรี และช่องยูทูปพอดีพอโยคะ (pordipor yoga) ที่มียอดผู้ติดตามกว่า 168,000 คน มีประสบการณ์การสอนและการฝึกโยคะ 9 ปี (อีกนิดๆ จะสิบปีละน้าา 😆)

คอร์สนี้ประกอบไปด้วย
✅วิดิโอแนะนำการเตรียมตัวก่อนการเริ่มฝึกโยคะ 6 วิดิโอ
✅วิดิโอสอนการฝึกโยคะระดับพื้นฐาน 6 วิดิโอ
✅วิดิโอคลาสโยคะรูปแบบต่างๆ อีก 4 วิดิโอ
✅ไฟล์ PDF ภาพประกอบชุดท่าโยคะพื้นฐานเพื่อเก็บไว้ฝึกเอง
✅กวางและทีมงานที่คอยตอบคำถามตลอดการใช้งาน ทั้งคำถามเรื่องโยคะ และคำถามเรื่องเทคนิคอุปกรณ์การใช้งานต่างๆ
✅คอร์สเรียนดูได้ตลอดชีพ

รวมเวลาการฝึกในคอร์สกว่า 11 ชั่วโมง เรียนจบคอร์สรับรองว่าสามารถฝึกโยคะเองได้อย่างเข้าใจและมั่นใจค่ะ นอกจากนี้ยังสามารถส่งวิดิโอมาให้ช่วยเช็ก ส่งคำถามหรือพูดคุยปรึกษาเกี่ยวกับการฝึก (หรือเรื่องอื่นๆ ก็ได้นะจ๊ะ)

🔥 ทั้งหมดนี้ในราคา 2,499- จ่ายครั้งเดียวดูได้ตลอดชีพ

ถ้าสนใจสามารถแมสเสจหรือแอดไลน์มาพูดคุยสอบถามได้ที่ @pordiporyoga (คลิ๊กลิงค์ได้เลยที่นี่ → https://lin.ee/2HxBgL2)

สนใจสั่งซื้อหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ https://www.pordiporyoga.com/

อ่านรีวิวคอร์สได้ที่นี่ https://www.pordiporyoga.com/course-review-page/
ซื้อก่อนสวยแถมสุขภาพดีก่อนใคร ฝึกเองมาแล้วเก้าปี ของดีบอกต่อเลยจ้าา 🥳

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top
Scroll to Top