ว่าด้วยเรื่องกิน

ก่อนจะมาฝึกโยคะกวางถือว่าเป็นคนหนึ่งที่เอ็นจอยอีตติ้งมาก เรียกว่าเป็นความภูมิใจของวงศ์ตระกูล ลุงถึงกับเคยเอาไปคุยอวดว่าหลานสาวกินเก่งมาก กินก๋วยเตี๋ยวทีสามชาม (ตอนนั้นน่าจะอยู่ป.4) เคยกระทั่งไปเที่ยวดรีมเวิร์ดแล้วติดใจมาม่าต้มยำกุ้งที่ขายในนั้นจนเดินไปซื้อสามรอบ รอบสุดท้ายคนขายหลุดขำออกมาเลยตอนเห็นกวางเดินถือชามเข้าไป นึกแล้วยังขำตัวเอง กินเข้าไปได้ยังไง ชูชกที่สุด

หลังจากมาฝึกโยคะในช่วงปีแรกๆกวางก็หาได้กินน้อยลงไม่ ยังคงคอนเซ็ปเดิมเพราะถือว่าตนยังเด็ก ยังเผาผลาญดีอยู่ แต่โดยนิสัยไม่ใช่คนที่ชอบของหวาน ของมัน หรือของทอดอยู่แล้ว เป็นคนไม่กินจุกจิกเลยเพราะเป็นคนรักสะอาดไม่ชอบให้มือเปื้อนเวลาหยิบขนม จะเน้นกินของคาวเป็นมื้อหนักๆมากกว่า แถมยังชอบกินเนื้อ ผัก และอาหารเส้นทุกชนิดมาก

ทีนี้พอเวลาผ่านไป อายุเริ่มเข้าเลขสาม การเผาผลาญเริ่มอืดลงอย่างเห็นได้ชัด จากที่กินครึ่งชั่วโมงก็ย่อยหมดแล้ว ระยะเวลาย่อยเริ่มยืดยาวเป็นหนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง จนทุกวันนี้ใช้เวลาทั้งคืนก็ยังคงย่อยไม่หมด และออกอาการลงพุงอย่างชัดเจน จึงถึงคราวต้องปลงสังขารกลับมาสู่คำสอนที่ได้ร่ำเรียนมา ถึงเวลาแล้วที่เราต้องปฏิบัติจริงจังเสียที

ทานอาหารครึ่งนึงของกระเพาะ

ว่าด้วยเรื่องของร่างกาย หากเราดูทางกายภาพร่างกายของคนเราจะถูกแบ่งออกเป็นของเหลว 70% และของแข็ง 30% แต่ในทางอายุรเวทแล้วจะดูในเชิงของพลังงานทำให้แบ่งร่างกายออกเป็นธาตุสี่ คือ ดิน น้ำ ลม และไฟ กระเพาะอาหารของเราก็เช่นเดียวกัน

หากจะกินให้ถูกต้องตามหลักอายุรเวทแล้ว เราควรแบ่งกระเพาะอาหารออกเป็นสี่ส่วน ธาตุดินคืออาหารที่กินเข้าไป ธาตุน้ำคือน้ำที่ดื่มเข้าไป กระทั่งน้ำซุปของแกงจืดหรือต้มต่างๆก็นับรวมด้วย ดังนั้นอีกครึ่งหนึ่งของกระเพาะคือธาตุลมและธาตุไฟ ควรเว้นว่างไว้เพื่อให้ธาตุไฟซึ่งก็คือความร้อนได้เผาผลาญอาหารอย่างเต็มที่ และให้ธาตุลมได้มีพื้นที่ในการคลุกเคล้าอาหารและน้ำย่อยเข้าด้วยกัน

เราจะรู้ได้ยังไงว่าครึ่งนึงของกระเพาะอยู่ตรงไหน เอาง่ายๆว่าเวลาที่กินถ้ารู้สึกว่าอิ่มน้อยๆแล้วให้หยุดที่ตรงนั้น จะเป็นจุดที่รู้สึกว่าพอดีกระเพาะ ถ้ากินอีกนิดจะเป็นคำว่าอิ่มแบบแน่นนิดนึง การกินแบบนี้นอกจากจะดีต่อสุขภาพในระยะยาว ช่วยรักษารูปร่างให้สมส่วน ยังช่วยให้ดูอ่อนเยาว์อีกด้วย เพราะยิ่งเราทานมาก ร่างกายเกิดการเผาผลาญมาก เซลล์ก็จะเสื่อมไวแล้วเราก็จะดูแก่เร็ว

กินอะไรดี

อาหารที่ดีคิดว่าพอจะรู้กันอยู่แล้ว แต่ถ้าใช้หลักการง่ายๆเลยก็คือ ต่อหนึ่งมื้ออาหารควรกินผัก 1 กำมือ/ส่วน เนื้อสัตว์หรือปลา 1 กำมือ/ส่วน ข้าว 1 กำมือหรือน้อยกว่านั้น ถ้าเป็นไปได้ควรกินข้าวกล้อง เพราะเป็นแป้งเชิงซ้อน อิ่มนานกว่า คุณค่าสูงกว่า และควรมีผลไม้ 1 กำมือเป็นของว่างในหนึ่งวัน

ในช่วงแรกที่ลดอาหารกวางก็มีหลายเทคนิคที่ใช้ เช่น ลดปริมาณข้าวลงให้เหลือครึ่งนึงของที่กินปกติ แต่เน้นกับข้าวให้มากขึ้น มื้อเย็นกินผักกับโปรตีนพวกเนื้อไก่ ต้มเลือดหมูใส่ผักเยอะๆ ส้มตำ แกงเห็ด หรือแกงต้มเปรอะบ้างแล้วแต่สมองน้อยๆจะคิดเมนูออก แต่จะหลีกเลี่ยงแป้งพวกข้าว และอาหารเส้นให้มาก

ถ้าวันไหนออกกำลังกายหนักก็จะกินแป้งบ้างเพื่อช่วยทดแทนพลังงานที่เสียไป แต่ก็จะเน้นกินผักและเนื้อก่อนเยอะๆเพราะจะช่วยหลอกกระเพาะอาหารของเราให้อิ่มไวขึ้น แต่ถ้าวันไหนที่ออกกำลังกายเบาๆ เช่นโยคะบางประเภท แล้วหลังฝึกไม่ได้รู้สึกหิวก็จะไม่กินเลย เพราะเชื่อฟังอาจารย์ที่บอกไว้ว่า

มื้อเช้าอย่างราชา มื้อกลางวันอย่างคนธรรมดา มื้อเย็นอย่างยาจก และถ้าตอนเย็นไม่หิว ไม่ต้องกินนะ

แต่ทั้งนี้กวางก็จะคอยสังเกตร่างกายตัวเองด้วย ถ้าอดแล้วรู้สึกโหยอาหารอันนี้คือมากเกินไป จะทำให้ร่างกายโทรมได้ ถ้าเราหิวนิดๆเราก็กินได้แต่กินพอดีไม่มากไม่น้อยเกินไป กวางเองก็ไม่ใช่คนที่เคร่งครัดกับตัวเองมาก ยังมีวันที่แอบกินเยอะบ้างตามโอกาส เพราะเราก็คนธรรมดาที่ยังมีกิเลสอยู่ บางทีก็อยากลองนู่นลองนี่ ถ้าเคร่งเครียดมากเกินไป จริงจังมากเกินไป มันแน่นมันอึดอัด สุดท้ายก็จะไม่อยากทำและเลิกไปในที่สุด พฤติกรรมการกินเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นการจะเปลี่ยนควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเราจะได้ผลลัพย์ที่ยั่งยืนกว่าค่ะ

นอกจากนี้ถ้าการอดกินจะทำให้กวางขาดความสุข กวางก็จะไม่ทำ แต่กวางจะเลือกความสุขที่พอดี บางทีอยากกินมากสั่งมารู้ว่ายังไงก็กินไม่หมด พอของเหลือก็ต้องตัดใจให้ได้และทิ้งไป เพราะถือคติว่าเสียเงินดีกว่าเสียสุขภาพ และยังตัดความอยากไม่ได้ ก็ค่อยๆปรับไป วันนึงที่เรามีความยับยั้งชั่งใจต่อกิเลสมากขึ้น ความอยากก็จะค่อยๆลดลงไปเอง

ไข่ต้ม: ของดีสำหรับคนออกกำลังกาย

อาจารย์เคยพูดมานานแล้วว่าการแพทย์ทั้งสายอายุรเวท และสายตะวันตกฝั่งยุโรปไม่มีความเชื่อในเรื่องของคอเลสเตอรอลว่าส่งผลเสียต่อร่างกาย และยังแนะนำให้กินไข่วันละ 1–2 ฟอง แกยังพูดเรื่องน้ำมันจากไขมันหมูว่าเป็นน้ำมันที่ควรเอามาทำอาหารมากที่สุด ก่อนที่จะมีงานวิจัยตีแผ่ความเลวร้ายของน้ำมันพืชเสียอีก

คำพูดติดปากของแกคือถึงเบื่อก็ต้องกินมันเข้าไป เพราะข้อดีของไข่ต้มมีมากกว่าข้อเสียอย่างมากมายนัก แต่ทั้งนี้ต้องไม่ใช่ไข่ทอดหรือไข่เจียวนะคะ เพราะอันนั้นจะอุดมไปด้วยไขมันไม่ดี ควรกินไข่ต้มหรือดีที่สุดคือไข่ลวกเพราะย่อยง่ายกว่า แต่ไข่ดิบไม่ควรทานนะคะ เพราะไข่ขาวดิบร่างกายย่อยไม่ได้ค่ะ

ในไข่ต้มนอกจากจะมีโปรตีนที่ช่วยซ่อมแซมร่างกายหลังออกกำลังกาย อุดมไปด้วยไขมันดี มีเลซิตินที่ช่วยบำรุงสมอง(อยู่ในไข่แดง) ยังช่วยทำให้ผิวแข็งแรงอีกด้วย เมนูแนะนำของกวางคือไข่ลวกเหยาะแม๊กกี้และพริกไทค่ะ รับรองติดใจจนอยากกินทุกวันแน่นอน 🙂

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top
Scroll to Top