เราเคยได้ยินกันบ่อยๆว่าการฝึกโยคะได้ประโยชน์ทั้งทางกายและทางจิต ทางกายก็อาจจะเป็นเรื่องทั่วๆไป เช่น กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ข้อต่อ การไหลเวียนเลือด น้ำเหลือง การทำงานของฮอร์โมน อวัยวะภายใน ระบบย่อย ดูดซึม เผาผลาญและการขับถ่าย ซึ่งแต่ละท่าก็จะได้ประโยชน์เหล่านี้ในแบบที่ต่างๆกัน
แต่เวลาเราพูดถึงคำว่าหยินและหยางในโยคะ นั่นคือเรากำลังพูดถึงประโยชน์ทางจิตของอาสนะนั้นๆ อาสนะที่เป็นหยิน (-) ฝึกแล้วจะเกิดความสงบผ่อนคลาย ช่วยให้นอนหลับง่าย มีสมาธิ ช่วยสร้างและปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย
อาสนะที่เป็นหยาง (+) ฝึกแล้วจะทำให้จิตใจฮึกเหิม มีความกระปรี้กะเปร่า ลดอาการซึมเซาหดหู่ กระตุ้นการเผาผลาญ และทำให้เราแอคทีฟ
โดยมากคนผอมจะฟุ้งซ่าน หดหู่ ตื่นตัวง่าย จึงต้องเน้นฝึกท่าโยคะฝ่ายหยินที่ช่วยให้จิตใจสงบ ลดความวิตกกังวล ในทางกลับกันคนอ้วนมักจะอืดอาด ใช้พลังงานน้อย และง่วงหงาวหาวนอนบ่อย จึงต้องกระตุ้นด้วยการฝึกท่าโยคะฝ่ายหยาง เพื่อเน้นให้เกิดการใช้พลังงาน และสร้างความกระฉับกระเฉง
ในคลาสหนึ่งคลาส อาสนะที่ฝึกประกอบไปด้วยท่าที่เป็นทั้งหยินและหยาง เพื่อช่วยปรับความสมดุลของจิตใจทั้งสองด้าน เวลาที่เราฝึกเสร็จแล้วนอนพักในท่าศพหรือศวาสนะจึงเกิดเป็นความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และปลอดโปร่ง
หยินไม่ได้ดีกว่าหยาง หยางไม่ได้ดีกว่าหยิน เหมือนเราเถียงว่ามืดดีกว่าสว่าง หรือสว่างดีกว่ามืด สิ่งสำคัญคือความสมดุลของทั้งสองฝ่ายที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน
เหมือนมีฉันก็ต้องมีเธอ ก๊ากกกก วันเน้เค้ามีสาระ โดนบังคับให้หัดเขียนบทความอาทิตย์ละสองสามอันเพราะพูดไม่รู้เรื่อง ฮาาาา หัดเขียนเผื่อจะช่วยให้พูดเก่งขึ้นด้วย รออ่านสาระจากเค้าน้าา
ขอบคุณข้อมูลจากคลาสบรรยายศูนย์โยคะหฐราชาโยคาศรมค่ะ
ขอบคุณน้าศรีสำหรับรูปสวยๆด้วยค่ะ 😊
ใส่ความเห็น