วิธีใช้น้ำมันมะพร้าวบำรุงผิวในฤดูหนาว

น้ำมันมะพร้าวเริ่มเป็นที่สนใจสำหรับคนที่รักสุขภาพเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา จริงๆ มันมีประโยชน์กับร่างกายคนเราหลายอย่างมากเลยค่ะ ใช้ได้ทั้งรับประทานเพื่อบำรุงสุขภาพ บำรุงผิวพรรณ และอีกหลายอย่าง

เรื่องนี้เป็นความสนใจส่วนตัวของกวางเอง โดยปกติกวางเป็นคนที่ชอบใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติอยู่แล้วคือของที่ผ่านกระบวนการในการผลิตน้อย และไม่ค่อยเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้เคยทำงานบริษัทเครื่องสำอางนำเข้าและมีส่วนได้เกี่ยวข้องกับอ.ย. ค่อนข้างเยอะ นำพาให้ได้รู้จักกับสารเคมีต่างๆที่ใส่ในผลิตภัณฑ์ไปด้วย ยิ่งคลุกคลียิ่งอ่านมากถึงผลข้างเคียงของสารเคมีเหล่านั้น ยิ่งทำให้เราเริ่มเชื่อในวิถีของภูมิปัญญาดั้งเดิมมากขึ้น เลยเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นให้แสวงหาของดีมีคุณภาพ และราคาถูกมาใช้ค่ะ

เราเริ่มใช้น้ำมันมะพร้าวกันตั้งแต่เมื่อไร

น้ำมันมะพร้าวเป็นภูมิปัญญาที่อยู่คู่ประเทศแถบเอเชียแปซิฟิกมานาน การทำน้ำมันมะพร้าวในครัวเรือนมีมาตั้งแต่โบราณทั้งในไทย อินเดีย ฟิลิปปินส์ และประเทศใกล้เคียง นอกจากการนำน้ำมันมะพร้าวมาประกอบอาหารแล้วคนสมัยก่อนยังมีการนำมาทาตัวทาหน้า หรือแม้แต่ในตำราอายุรเวทก็มีการพูดถึงการทำออยพูลลิ่ง คือการอมน้ำมันมะพร้าวไว้สัก 15–20 นาทีแล้วบ้วนทิ้ง เป็นการกำจัดแบคทีเรียในช่องปากด้วย

ช่วงก่อนหน้าที่น้ำมันมะพร้าวจะกลายมาเป็นกระแสของคนรักสุขภาพ มันเคยเป็นวายร้ายในสายตาของคนทั่วโลกมาก่อน เราถูกทำให้เชื่อว่าน้ำมันมะพร้าวซึ่งเป็นไขมันอิ่มตัวสูงนั้นเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคหัวใจ แต่ในปีหลังๆ มานี้หลายงานวิจัยก็ได้ชี้ให้เห็นแล้วว่าน้ำมันมะพร้าวไม่ได้เป็นสาเหตุของโรคหัวใจอย่างที่โลกตะวันตกเคยกล่าวอ้าง (อ่านเพิ่มได้ใน Peer Reviewed Research) และออกจะเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพยิ่งกว่าน้ำมันสกัดถั่วเหลืองหรือข้าวโพดเสียอีก ซึ่งพืชสองอย่างนี้ของอเมริกาก็ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเยอะมากจนสามารถทำราคาได้ต่ำเกินความเป็นจริง

น้ำมันมะพร้าวดียังไง

จากการอ่านและศึกษาเพิ่มทำให้เห็นว่าข้อดีของน้ำมันมะพร้าวมีเยอะมากๆ แต่เนื่องจากกวางอยากจำกัดให้มันเป็นวิทยาศาตร์ที่เชื่อถือได้มากกว่าอะไรที่ฟังดูไกลตัว เลยจะขอพูดถึงแค่ข้อที่เห็นชัดเจน และหากสนใจก็ลองไปหาอ่านเพิ่มเติมกันดูนะคะ

น้ำมันมะพร้าวมีวิตามินอี กรดลอริก กรดคาปริก และกรดคาปริลิก (lauric acid, capric acid and caprylic acid) ช่วยรักษาความชุ่มชื้น ลดอาการผื่นคัน ป้องกันผิวไหม้เสียจากแสงแดด ป้องกันเชื้อโรคและแบคทีเรีย และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ผิวให้แข็งแรง

อนุมูลอิสระที่พูดถึงนี้แค่เพียงเราหายใจเฮือกเดียวก็เกิดแล้ว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพไว แก่เร็ว มีริ้วรอยมากขึ้น และทำให้ป่วยง่าย ดังนั้นการที่น้ำมันมะพร้าวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จึงมีคุณสมบัติช่วยชะลอความชราดังที่กล่าวมาข้างต้นได้

หากนำไปรับประทานน้ำมันมะพร้าวยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย นอกจากนี้ที่เป็นจุดเด่นเลยคือเป็นน้ำมันที่ทนความร้อนได้สูง เหมาะกับการทำอาหารแบบชาวเอเชียที่เน้นครัวหนักพวกผัด และทอด ซึ่งหากเทียบกับน้ำมันมะกอกที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมากเช่นกันแต่ไม่สามารถนำมาทำอาหารหนักๆ ได้ เพราะมีจุดเกิดควันที่ต่ำซึ่งเชื่อกันว่าทำให้เกิดอนุมูลอิสระ และเกิดสารก่อมะเร็งได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้แนะนำให้ทานมากเกินไปนะคะ เอาพอดีๆ ดีที่สุด

ซื้อน้ำมันมะพร้าวประเภทไหนดี

ตารางบอกคุณภาพน้ำมันมะพร้าวไล่จาก 1 ถึง 10 http://healthimpactnews.com/2014/what-type-of-coconut-oil-is-best-how-to-choose-a-coconut-oil/

พวกเราถือว่าเป็นผู้โชคดีที่อยู่ในประเทศที่ปลูกมะพร้าวได้มาก ทำให้สามารถซื้อหาน้ำมันมะพร้าวหลากหลายประเภทมาใช้ได้ในราคาไม่แพง วิธีการผลิตน้ำมันมะพร้าวนั้นมีหลากหลาย และแต่ละวิธีก็เหมาะกับจุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันค่ะ น้ำมันมะพร้าวที่เห็นตามท้องตลาดหลักๆ เลยจะมีอยู่สองแบบคือ น้ำมันมะพร้าวสำหรับทำอาหาร กับน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น และอีกอันที่ไม่ค่อยเห็นแต่มีอยู่ตามครัวเรือนคือ น้ำมันมะพร้าวที่ผ่านการเคี่ยว (ไม่รู้ภาษาไทยเรียกว่าอะไร)

น้ำมันมะพร้าวสำหรับทำอาหารถ้าดูจากในตารางจะเป็นกลุ่ม Fresh Pressed Virgin Coconut Oil ซึ่งคุณภาพก็ถือว่าสูงอยู่ที่ 8 จาก 10 เหมาะกับการนำไปทำอาหารหนักๆ พวกผัดและทอด เพราะมีจุดเกิดควันสูงมากอยู่ที่ราวๆ สองร้อยกว่าองศาเซลเซียส

ต่อมาก็เป็นน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นหรือ Wet-mill no-heat Virgin Coconut Oil ที่สามารถนำไปทำอาหารได้เหมือนกัน แต่คนจะนิยมนำไปกินเพียวๆ ทำออยพูลลิ่ง หรือทาผิวหมักผมมากกว่า คุณภาพดีมากอยู่ที่ 9 จาก 10 แต่ๆๆๆ ไม่ใช่ว่าถ้าเป็นแบบสกัดเย็นแล้วจะดีทุกยี่ห้อนะคะ เราอาจจะต้องทดลองซื้อมาใช้กันก่อน

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นที่ทำมาดีจะใส ไม่มีสี ไม่ตกตะกอน มีกลิ่นหอมของมะพร้าว ไม่มีกลิ่นหืนหรือเปรี้ยว แม้ว่าจะมีการเปิดใช้มาหลายครั้งแล้ว (ปกติเก็บได้สองปี) มีความหนืดน้อย สามารถกลืนลงคอได้ง่าย เมื่อนำไปทาผิวแล้ว สามารถซึมสู่ผิวได้เร็วค่ะ

สุดท้ายเป็นน้ำมันมะพร้าวที่ผ่านการเคี่ยว Wet-mill fermentation, heated Virgin Coconut Oil ซึ่งหาซื้อได้ยากและส่วนมากเป็นการทำใช้เองในครัวเรือน ถือว่ามีคุณภาพสูงที่สุดอยู่ที่ 10 จาก 10 นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่พบว่าน้ำมันมะพร้าวที่ผ่านการเคี่ยวเป็นน้ำมันมะพร้าวที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุดจากบรรดากระบวนการทำน้ำมันมะพร้าวทั้งหมด และยิ่งเคี่ยวสารต้านอนุมูลอิสระยิ่งละลายเข้าสู่น้ำมันเพิ่มขึ้น เพราะสารเหล่านี้ก็ทนความร้อนได้สูงมากเช่นกัน (อ่านเพิ่มได้ใน Coconut oil: It’s good for you after all)

วิธีใช้น้ำมันมะพร้าวบำรุงผิวในฤดูหนาว

แล้วก็มาถึงเป้าหมายหลักของการเขียนเรื่องนี้ ร่ายมาซะยาวเลย 555 คือการแนะนำวิธีการทาน้ำมันมะพร้าวในหน้าหนาว ซึ่งปกติกวางใช้น้ำมันมะพร้าวแบบสกัดเย็นหรือถ้าใครทำน้ำมันมะพร้าวแบบเคี่ยวใช้เองในครัวเรือนได้ก็ทำโลดเลยค่ะ

หลายคนพูดถึงว่าทาน้ำมันมะพร้าวแล้วดี แต่เคยสงสัยมั้ยคะว่าจริงๆแล้วมันทายังไง น้ำมันมะพร้าวถึงจะดูมันและลื่นเมื่อยามใช้ในห้องน้ำแต่ก็เป็นน้ำมันที่ซึมไว สำหรับคนที่ผิวแห้งมากๆจนถึงขั้นแตกเป็นขุยถ้าใช้น้ำมันมะพร้าวอย่างเดียวคงเอาไม่อยู่แน่ ดังนั้นจึงต้องมีเทคนิคเพิ่มเติมในการทาสำหรับหน้าหนาวกันสักหน่อย เทคนิคนี้กวางได้ยินจากพี่สาวคนนึงที่ผิวเนียนสวยมาก เอามาแบ่งปันกันค่ะจะได้ผิวสวยทุกคน

  1. ขั้นแรกอาบน้ำเสร็จแล้วให้เราสะบัดน้ำออกจากตัว ไม่ได้ใช้ผ้าเช็ดตัวนะคะ แค่เอามือปัดน้ำออกให้ตัวเราพอหมาดๆค่ะ
  2. จากนั้นเอาน้ำมันมะพร้าวมาชโลมให้ทั่วตัว นวดคลึงจนน้ำมันซึมเข้าสู่ผิวสักเล็กน้อย
  3. ล้างตัวเร็วๆอีกหนึ่งรอบเพื่อขจัดน้ำมันมะพร้าวส่วนเกินออกไปจากผิว
  4. ใช้ผ้าเช็ดตัวซับน้ำออกจากตัว ก็จะเหลือน้ำมันมะพร้าวเคลือบผิวอยู่บางๆ
  5. ทาครีมบำรุงผิวทับลงไปอีกที เพื่อช่วยปกป้องผิวอีกชั้นหนึ่ง อันนี้คือเห็นมาแล้วว่าคนที่ใช้วิธีนี้ผิวละเอียดมากจริงๆ แนะนำๆ ค่ะ

น้ำมันมะพร้าวนอกจากจะทำให้ผิวเนียนนุ่มยังได้ชื่อว่าทำให้ผิวสีแทนสวย ฝรั่งชอบเอาไปผสมในซันแทนหรือครีมทาตอนอาบแดด เพราะช่วยให้ผิวสีแทนเสมอกันทั่วตัว ดังนั้นถ้าใครที่ไม่อยากได้ผิวสีแทนก็แนะนำว่าทาตอนกลางคืนจะได้ผลดีกว่าค่ะ แต่ส่วนตัวกวางทาทั้งกลางวันกลางคืนก็ไม่ถึงขั้นผิวดำนะคะ ออกแทนกลางๆ

ตบท้ายด้วยครีมโครงการหลวงหอมๆ

อยากแนะนำให้ใช้คู่กับครีมทาผิวของโครงการหลวงอันนี้ค่ะ กวางเพิ่งค้นพบเมื่อไม่นานนี้ มีความหอมระดับราคา 800 บาทแต่ราคาจริงอยู่ที่ 100 บาทเองค่ะ หาซื้อได้ตามร้านโครงการหลวงทั่วไป ของกวางซื้อที่ตลาดอตก. กับสนามบินดอนเมืองค่ะ

ทาน้ำมันมะพร้าวและตามด้วยครีมทาผิวทุกคืนหลังอาบน้ำ ทีนี้ผิวเราก็จะเนียนนุ่มและแข็งแรงขึ้น พร้อมสำหรับหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึงค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติมและรูปภาพ:

http://healthimpactnews.com/2014/what-type-of-coconut-oil-is-best-how-to-choose-a-coconut-oil/

 

http://healthimpactnews.com/2014/what-type-of-coconut-oil-is-best-how-to-choose-a-coconut-oil/

 

http://healthimpactnews.com/2014/what-type-of-coconut-oil-is-best-how-to-choose-a-coconut-oil/

 

http://healthimpactnews.com/2014/what-type-of-coconut-oil-is-best-how-to-choose-a-coconut-oil/

 

http://healthimpactnews.com/2014/what-type-of-coconut-oil-is-best-how-to-choose-a-coconut-oil/

 

http://healthimpactnews.com/2014/what-type-of-coconut-oil-is-best-how-to-choose-a-coconut-oil/

 

http://healthimpactnews.com/2014/what-type-of-coconut-oil-is-best-how-to-choose-a-coconut-oil/

 

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top
Scroll to Top