พอจะสรุปกันได้ว่าการฝึกสุริยนมัสการรูปแบบนี้เป็นกิจกรรมที่ให้อะไรมากกว่าการหวังผลทางร่างกาย เพราะมันช่วยเยียวยาจิตใจ เป็นกิจกรรมง่ายๆ ที่ทำให้จิตใจสงบและปลอดโปร่ง
ในการฝึกหนึ่งชั่วโมงนั้นเราไม่ได้มีความคาดหวัง ไม่ได้มีกฏเกณฑ์ว่าต้องทำกี่เซ็ตๆ เหมือนเวลาไปฟิตเนส เราเพียงแค่รู้สึกถึงร่างกายของเราขณะที่เคลื่อนไหวแล้วก็ทำไปเรื่อยๆ อยู่กับร่างกายและจังหวะลมหายใจของเราไปเรื่อยๆ พอทำแบบนี้จิตใจจึงค่อยๆสงบผ่อนคลาย พอฝึกเสร็จเลยรู้สึกเบาทั้งกายเบาทั้งใจ
สิ่งที่กวางตั้งใจสอนมาตลอดไม่เคยเป็นเรื่องของโยคะ แน่นอนว่าเทคนิคและวิชาเป็นสิ่งที่ได้ร่ำเรียนมาและจำเป็นต้องถ่ายทอดต่ออย่างถูกต้องอยู่แล้ว แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดที่ได้เรียนมา สิ่งที่อาจารย์พร่ำสอนมากกว่านั้นคือหัวใจของการฝึกโยคะ คือความเข้าใจในวิถีที่สอดคล้องกันของโยคะและชีวิตโดยองค์รวม มันเป็นความรู้ที่กว้างและกระจายออกด้านข้างมากกว่าจะสูงขึ้นไปในแนวดิ่ง ซึ่งกวางได้พยายามสอดแทรกเข้าไปในทุกโอกาสที่ทำได้
นอกจากการพยายามสอนสิ่งเหล่านี้แล้ว กวางเองก็เชื่ออย่างที่อาจารย์สอนมาว่าเมื่อเราฝึกโยคะในแนวทางที่ถูกต้องความเข้าใจเหล่านี้จะค่อยๆ ก่อเกิดขึ้นเอง เป็นกระบวนการเรียนรู้จากภายในซึ่งกวางเองก็ยังคงไม่สามารถอธิบายได้ชัดแจ้งว่ามันคืออะไร เพราะก็ยังไปไม่สุดทางของมันเหมือนกัน
แต่มันเหมือนวันนี้เราเห็นจุดหลายๆ จุดแยกกันอยู่ห่างๆ แต่วันนึงจุดเหล่านี้จะเริ่มเชื่อมโยงต่อกันจนก่อเกิดเป็นรูปร่างชัดเจนมากขึ้น นั่นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในภายภาคหน้า ขอเพียงเราใส่ความเพียรเข้าไป ขยันทำเหตุ โดยไม่คาดหวังผล แล้ววันหนึ่งที่เวลานั้นมาถึงเราจะเข้าใจได้เองว่าสิ่งนี้คืออะไร
ข้อความข้างล่างนี้คิดขึ้นได้ท่ามกลางบทสนทนากับอาจารย์ในเทือกเขามะนาลี อินเดีย คิดได้ตอนกำลังกึ่มๆไวน์แดงเลยละค่ะ #สองขวดสามคน #วิถีโยคี #ตีสามยังไม่ได้นอน